รอง ผอ. ไทยพีบีเอส โพสต์ยืนยัน ITV-บริษัทลูก ปิดกิจการแล้ว!

รอง ผอ. ไทยพีบีเอส โพสต์ยืนยัน ITV-บริษัทลูก ปิดกิจการแล้ว!

รอง ผอ. ไทยพีบีเอส โพสต์ยืนยัน ITV-บริษัทลูก ปิดกิจการแล้ว!

ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี คำถามเหล่านี้จะหมดไปเมื่อสมัครสมาชิกกับ DINGDONG888 เว็บซื้อหวยออนไลน์ จ่ายจริง เพราะเราคือ เว็บหวยออนไลน์ อันดับ 1 ณ ตอนนี้

 นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายและเสียงแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท./ไทยพีบีเอส) โพสต์เมื่อวันพุธ (10 พ.ค.) ยืนยันว่า บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ปิดกิจการไปแล้วตั้งแต่ปี 2550 ส่วนบริษัทลูกที่ให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำก็ปิดกิจการแล้วเช่นกัน แต่ยังสถานะนิติบุคคลไว้เพื่อฟ้องร้องกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

การเปิดเผยนี้มีขึ้นในช่วงที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบปาร์ตี้ลิสต์พรรคพลังประชารัฐ ลำดับที่ 22 ที่มีชื่อเสียงจากการร้องเรียนเรื่องต่างๆ อยู่แล้ว ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการสำรวจความเห็นประชาชนการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. หลายสำนัก ถือหุ้นบริษัทที่ประกอบกิจการด้านสื่อมวลชน ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และรัฐมนตรี

โพสต์ในเฟซบุ๊กของรอง ผอ. ไทยพีบีเอส ให้ข้อมูล 7 ข้อที่ยืนยันว่าไอทีวีและบริษัทลูกปิดกิจการไว้ โดยข้อที่ 1-6 เป็นข้อมูลตามรายงานประจำปี 2565 ของไอทีวี ส่วนข้อที่ 7 เป็นความเห็นส่วนตัวของนายอนุพงษ์เอง มีข้อความดังนี้

  1. หยุดประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวีตั้งแต่ 24.00 น.วันที่ 7 มีนาคม 2550 สืบเนื่องจากการบอกเลิกสัญญาร่วมงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
  2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย delist ถอดหุ้นไอทีวีจากการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 2557
  3. ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการฟ้องร้องพิพาททางกฏหมายกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีที่อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดว่า-การบอกเลิกสัญญาของ สปน. ไม่ชอบด้วยกฏหมาย-ให้ สปน.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,890 ล้านบาท
    • ต่อมา สปน.ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของอาุญาโตตุลาการ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ สปน.
    • มกราคม 2564 สปน.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา
  4. ปีบัญชี 2565 ไอทีวี มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ 20.5 ล้านบาท (ผลตอบแทนจากตราสารหนี้และตราสารทุน) กำไรสุทธิ 8.5 ล้านบาท
  5. ไอทีวี มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือ บ.อาร์ตแวร์มีเดีย ให้เช่าอุปกรณืผลืตรายการวิทยุโทรทัศน์ ผลิตรายการโทรทัศน์ ซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ สถานะปัจจุบันของบริษัท คือ หยุดประกอบกิจการ
  6. กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายและการดำเนินงาน บ.ไอทีวี ในปัจจุบัน คือ บ.อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
  7. การรักษาสถานะความเป็นนิติบุคคลของ บ.ไอทีวี เพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับสปน. (ความเห็นผู้เขียน)


บล็อกอื่นๆ ที่น่าสนใจ


















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“สุชาติ” สอน "ก้าวไกล" ประธานสภา ไม่มีสิทธิเลือก กม.ได้ตามใจ

แม่บ้านรัฐสภา โผกอดพิธาหลังไม่ได้เจอนาน ชาวเน็ตแซวมีตำแหน่งว่างไหม

อาจารย์วันนอร์คือใคร? รู้หรือไม่เคยเป็นประธานสภาฯ มาแล้ว และเป็น ส.ส. 11 สมัย